วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2556


    
      วันงดสูบบุหรี่โลก
           ตั้งแต่ปี ๒๕๓๑ องค์กรอนามัยโลก ได้กำหนดให้วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลกทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้ทุกประเทศตระหนักถึงอันตราย และความสูญเสียทั้งทางสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคมที่เกิดจากการสูบบุหรี่  ได้ประกาศให้มีการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ โดยใช้ชื่อว่า World Spidemicหรือการสูบบุหรี่เป็นโรคระบาดที่ระบาดอยู่ทั่วโลก
           และประกาศเตือน เยาวชนที่เริ่มสูบบุหรี่ เมื่ออายุยังน้อย และสูบเป็นประจำ จะเสียชีวิตก่อนอายุขัยปกติ (ประมาณ ๗๐-๘๐ ปี) ถึง ๒๒ ปี
           ดังนั้นรัฐบาลไทย ได้ตระหนักถึงความสูญเสียชีวิตของประชากร ที่เกิดจากการสูบบุหรี่อย่างต่อเนื่อง มาเป็นเวลาหลายปี ให้รับทราบถึงอันตราย โทษของการสูบบุหรี่ ซึ่งก็เป็นที่รู้ๆ กัน แต่จะให้เลิกสูบเลย เป็นเรื่องที่ยากมาก สำหรับผู้ที่ติดบุหรี่แล้ว
           จึงได้มีการรณรงค์ให้เลิกสูบบุหรี่ และกำหนดมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลนำมาใช้ โดยการดูแลของกระทรวงสาธารณสุข ผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และบุคลากรสาธารณสุข ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผู้สูบบุหรี่ พยายามเลิกสูบบุหรี่ไม่ว่าจะเลิกได้สำเร็จหรือไม่ก็ตาม ดังเช่น เมื่อเร็วๆนี้ กระทรวงสาธารณสุข ประกาศบังคับใช้ มาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. ๒๕๓๕ ให้มีการพิมพ์ คำเตือน โทษของการสูบบุหรี่ที่ข้างซอง มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๔๘ เป็นต้นไป ตัวอย่างดังภาพ ข้างล่าง
          และเนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก ดิฉันอยากให้ทุกคนตระหนักถึงโทษของบุหรี่ว่า ถ้าเราสูบบุหรี่ไปก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมา มีแต่จะทำให้ร่างกายของเราย้ำแย่ลงทุกที แถมยังทำร้ายครอบครัวของเราในทางอ้อมอีกด้วย
ดิฉันก็เป็นอีกหนึ่งคนที่มีบุคคลในครอบครัวสูบบุหรี่ นั้นก็คือ พ่อของดิฉันเอง ดิฉันอยากจะให้พ่อเลิก แต่ก็รู้ว่าบุหรี่นั้นเลิกอยาก แต่ยังไง ๆ ดิฉันก็เป็นกำลังใจให้พ่ออยู่เสมอ และดิฉันก็คอยเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังเลิกบุหรี่น่ะค่ะ
วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญ ของพุทธศาสนาสากล
วันวิสาขบูชาเป็นวันคล้าย คล้ายวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ของพระพุทธเจ้า โดยได้เกิดเหตุการณ์ตรงกับ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 พุทธศาสนิกชนจึงเรียกการบูชาในวันนี้ว่า วิสาขบูชา หรือ การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ ถูกกำหนดให้เป็นวันสำคัญของโลก มีการจัดกิจกรรมต่างๆ พร้อมกันทั่วโลก
» ประสูติ
เป็นวันคล้ายวันประสูติ ของเจ้าชายสิทธัตถะ ณ สวนลุมพินีวัน ใต้ต้นสาละ ตรงกับวันศุกร์ขึ้น 15 ค่ำ ก่อนพุทธศักราช 80 ปี ซึ่งต่อมาพระองค์ได้ออกบวช เพื่อศึกษาหาทางหลุดพ้น จนบรรลุค้นพบความจริงของชีวิต สำเร็จเป็นพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า และได้เดินทางเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก
» ตรัสรู้
ณ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม เมื่อวันเพ็ญเดือน 6 ก่อนพุทธศักราช 45 ปี พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงบรรลุธรรม และได้ตรัสรู้ในอริยสัจ 4 เป็นการตรัสรู้อันยอดเยี่ยม ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และ มรรค ทำให้วันนี้เป็นวันพระพุทธ เป็นวันที่มีพระพุทธเจ้าขึ้นในโลก หรือเรียกว่า วันวิสาขบูชา
» ปรินิพพาน
เมื่อพระพุทธองค์ ได้ตรัสรู้ และทรงแสดงธรรม เป็นเวลายาวนานถึง 45 ปี ในบริเวณ เมื่อวันเพ็ญเดือน 6 ก่อนพุทธศักราช 1 ปี ณ สาลวโนทยาน ของมัลลกษัตริย์ ใกล้เมืองกุสินารา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ปรินิพพาน ณ ใต้ต้นสาละ โดยพระองค์ ทรงมีพระชนมายุได้ 80 พรรษา ถือเป็นวันสำคัญของชาวพุทธทั่วโลก
เนื่องในวันวิสาขบูชานั้น พวกเราชาวพุทธทั้งหลายถือว่าเป็นวันสำคัญมากอย่างหนึ่งของชาวพุทธก็ว่าได้

วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

กรรมการนักเรียน

                                                            กรรมการนักเรียน
          ในทุกๆโรงเรียน ทุกๆสถาบันการศึกษานั้นจะต้องมีกรรมการ หรือประธานนักเรียน อย่างแน่นอน ไม่มีที่ไหนไม่มี และแต่ล่ะสถานที่จะเลือกกรรมการนักเรียนแตกต่างกันไป เช่น การแต่งตั้งโดยครูอาจารย์ และผู้บริหาร  หรือ การเลือกตั้งแบบใส่คะแนนเสียงจากนักเรียนภายในโรงเรียนของตน
         เหมือนกับโรงเรียนของดิฉันเช่นกัน ทุกๆปีการศึกษา จะมีการเลือกกรรมการนักเรียนและประธานนักเรียนทุกๆปี ซึ่งในแต่ล่ะปีจะวิธีแตกต่างกันไป บางปีแต่งตั้งโดยครูโดยเลือกนักเรียนที่มีความเหมาะสมกับตำแหน่ง หรือบางปีเลือกโดยการใส่คะแนนเสียง หรือบางปีใช้คณะกรรมการชุดเดิมของปีที่แล้ว ซึ่งบางครั้งการเลือกกรรมการแตกต่างกันไป มีข้อแตกต่างมากมายเช่น
     การเลือกโดยการลงคะแนนเสียง
         นักเรียนทุกคนจะได้ลงคะแนนเสียงให้กับคนที่ตนชอบ และมีนโยบายตามที่ตัวเองชอบ ซึ่งบางครั้งการเลือกแบบนี้ อาจจะส่งผลเสียมากกว่า ผลดี เพราะ นักเรียนส่วนมากจะเลือกตามความพอใจ ไม่เน้นเรื่องความสามารถของกรรมกานักเรียนรที่เลือกไป และผลที่ตามมาก็คือ เป้าหมายที่โรงเรียนตั้งไว้กับกรรมการนักเรียน พังทะลาย ไม่ได้ตามที่ตั้งไว้ หรือบางทีกิจกรรมต่างๆของนักเรียนไม่มี และบางทีนโยบายที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม ไม่สามารถทำตามที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ได้เลย
   การเลือกโดยคณะครู อาจารย์ และผู้บริหาร
       ในการเลือกกรรมการนักเรียนแบบนี้ จะขึ้นอยู่กับความสามารถของนักเรียน เมื่ครุอาจารย์เห็นก็นำไปพิจารณาเลือกนักเรียนที่มีความสามารถจริงๆ เช่น หัวหน้าห้อง รองหัวหน้าห้อง หรือนักเรียนที่มีความประพฤติเหมาะสม สามารถแนะนำรุ่นน้องในทางที่ดีได้ มีภาวะการเป็นผู้นำสูง สามารถทำสิ่งที่ดีๆให้โงเรียนได้เสมอ ซึ่งการเลือกแบบนี้จะได้กรรมการนักเรียนมีคุณภาพขึ้นโดยการคัดกรองจากคณะครู อาจารย์ มาเป็นอย่างดีแล้ว
  การเลือกโดยนำเอาคณะกรรมการปีที่แล้วมาทำหน้าที่ต่อ
      ในการทำแบบนี้นักเรียนที่เป็นกรรมการนักเรียนอยู่แล้วสามารถสายต่อนโยบายปีที่แล้วได้โดยไม่ต้องติดขัดอะไร เพราะกรรมการนักเรียนเหล่านี้ ได้ทำหน้าที่มาปีหนึ่งแล้ว และสาเหตุที่ได้กลับมาเพราะปีที่ผ่านมาทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดี และอยากจะทำหน้าที่ที่ครู อาจารย์ได้มอบหมายให้ดีที่สุดก็เป็นไปได้ และเหตุที่ได้กลับมารับหน้าที่ต่อเพราะทางโรงเรียนได้เห็นความสามารถและความเหมาะสมของพวกคณะกรรมการนักเรียนชุดนั้นๆ
       โดยทุกๆครั้งไม่ว่าจะเลือกคณะกรรมการนักเรียนแบบไหน นักเรียนที่ถูกคัดเลือกแล้วจะต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด สมกับการไว้วางใจจากโรงเรียนของตนเอง

วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

บล็อก


                                               Blogบล๊อกมันทำให้ันเกือบยังงาย.............!!!
ตอนแรกเมื่อเข้ามาในห้องคอม อาจารย์ได้สอนให้ทำบล๊อก การสร้างบล๊อกขึ้นมาและเมื่ออาจารย์ทำให้เขียนเนื้อหาขึ้นมา อาจารย์บอกว่า เนื้อหาเรื่องแรก ให้เกี่ยวกับบล๊อกหลังจากนั้นอาจารย์ก็เดินกลับไปยังโต๊ะคอมของอาจารย์ เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานฉันก็เริ่มเขียนเป็นเรื่อง เป็นราวจนเกือบจะเสร็จแล้ว ยังอีกไม่กี่บรรทัดก็จะเสร็จแล้ว โดยมีเนื้อหาว่า...............!!
.................................................................................................................................................................                            
                                                   การเริ่มต้นของชีวิตทุกชีวิต

          คนเรานั้นกว่าจะเกิดขึ้นมาได้ ก็ต้องลำบากยากเข็นต่อผู้เป็นบุพการีอย่างมากกว่าจะลืมตาลืมมาดูโลกอันสวยงามนี้ แต่โหดร้าย
          เมื่อเกิดมาลืมตาดูโลกเราก็ได้พบกับแววตาอันสวยงามของผู้ที่เกิดมาที่มองเราด้วยความเอ็นดูเป็นอย่างมาก และมองในตานั้นค่อยๆมีน้ำตาใส่ที่นัยต์ตาออกมาที่ละน้อย เมื่อน้ำนัยต์ตาค่อยๆไหลออกมา มันมาพร้อมกับรอยยิ้มและสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขและความรักความมีเมตตาที่มีต่อเรา
หลังจากนั้นเมื่อเราเติบโตขึ้นมาจะต้องเผชิญกับสิ่งต่างๆมากมายนับไม่ถ้วน มีทั้งในทางที่ดี และในทางที่ร้าย ทำให้เรามีน้ำตา ความสุข ความทุกข์ความเสียใจตลอดเวลาที่มีชีวิตบนโลกให้นี้....
ในวัยเด็กอาจจะมีความสุข ความสนุกมากกว่าความทุกข์ และเมื่อเราผ่านจุดวัยเด็กมา มันทำให้เรารู้จักความคิดที่จัสนุกน้อยลง นึกถึงคนรอบข้างและความเป็นมากขึ้น พบปะเจอะเจอ กับมากหน้าหลายตา ที่มีทั้งคนดี แะคนชั่ว ในสถานที่เดียวกัน เมื่อเรารู้จักโลกภายนอกมากขึ้น มันทำให้เรารู้สึกว่าเราเบื่อโลกที่แสนวุ่นวายนี้ เหตุผลที่ทำให้เรามองโลกเป็นแบบนี้เพราะเราเริ่มพบปัญหาในชีวิตมากขึ้น ทำให้เราสับสน มองไม่เห็นหนทางที่จะเดินต่อไป เราก็มักจะไปปรึกษาเพื่อน และคนอื่นมากกว่าคนในครอบครัว และสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราอาจหลงผิดได้ ลองนึกดูว่าเวลาเราเดินทางผิดจะเป็นยังไง บุพการีจะเสียใจมากแค่กับสิ่งที่เรากระทำเมื่อหลงผิด และพอเราผ่านจุดๆนี้มาได้ แต่พอไม่นานเราก็ต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่และต้องใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่ารู้จักคิด รู้จักทำอะไรๆมากขึ้น รู้จักที่จะแก้ปัญหาต่างๆได้เอง ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน
        ในช่วงชีวิตผู้ใหญ่นี้มันสามารถทำให้เรารู้ว่าเวลาทำอะไรผิดพลาดไป เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขในสิ่งที่ผิดเมื่ออดีตได้ มันก็เหมือนกับ ลม ที่มันไปห่วนคืนกลับมา มันมีแต่ผ่านพ้นไป ไม่ห่วนกลับมาอีก แต่เมื่อมันผ่านไปแล้วสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคืน การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และเราจะแก้ปัญหานี้ได้มากแค่ไหน และไม่นานเราก็ผ่านช่วงเวลาที่ดี และเลวร้ายได้
        และเมื่อเราอยู่ให้วัยแก่ เราก็เริ่มกับสิ่งใหม่ๆที่ทำให้เรามีความสุขในช่วงเวลาสั้นๆ ในบั้นปลายชีวิต คือการพึ่งธรรมะ สัจจะธรรม ที่เราพึ่งพาจิตใจในยามแก่ชรา และทำให้เรามีความสุขในช่วงขณะนั้นๆ.........................................................................
.................................................................................................................................................................
         แต่ทันใดนั้น...........................ข่าวร้ายก็ตามมา เพื่อนในชั้นเรียนเดียวไดไปถามถึงหัวข้อที่ให้เขียนวาเป็นยังไง อาจารย์ก็ได้ตอบมาว่า......เป็นเรื่องเรียกกับบล๊อกเท่านั้น เรื่องอื่นไม่เกี่ยว พอฉันได้ยินอาจารย์พูดอย่างนั้น เมื่ออิยักงายเลย เพราะฉัันเขียนเกือบจะเสร็จแล้ว
โอ้วแม่เจ้า..........พอได้ยินแบบนี้ เพื่อนๆ ที่เขียนผิดก็พากันต่าง หัวเราะตัวเองกัน ทั้งๆ ที่ตัวเองทำผิดเขียนผิดเข้าใจผิด แต่ทุกคนก็ไม่ได้เครียดอะไรมาก เพราะอาจารย์ในเวลา ทำ ไม่ได้ส่งในวันนี้เลย แต่อย่างไรก็เหอะ ฉันเขียนอะไรไม่ออก นิดอะไรไม่ออก เกี่ยวกับการเขียนบล๊อกเลย และความรู้สึกตอนนั้นบอกได้คำเดียวว่า..............................มึน มึน มึน มึน  มากๆๆๆๆๆ แต่ฉันก็นึกออกได้ว่า อาจารย์พูดกับเพื่อนๆว่า เขียนอะไรก็ได้ ที่ให้มีคำว่า..."บล๊อก"....อยู่
เหอะๆๆ  ทันใดนั้นผมก้เริ่มเขียนๆๆๆ จนเสร็จ
แล้วก็มานึกขำตัวเองกับเพื่อนๆในห้องที่ทำผิดแล้วยังมีหน้ามาหัวเราะกันลั่นห้องอีก โถ้ๆๆๆ นึกภาพแล้วเมื่ออิยักงาย กับ  "Blog"